วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

คอมพิวเตอร์





     ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติวิชาคอมพิวเตอร์

ความหมายและความเป็นมา
     เมื่อพิจารณาศัพท์คำว่า คอมพิวเตอร์ ถ้าแปลกันตรงตัวตามคำภาษาอังกฤษ จะหมายถึงเครื่องคำนวณ ดังนั้นถ้ากล่าวอย่างกว้าง ๆ เครื่องคำนวณที่มีส่วนประกอบเป็นเครื่องกลไกหรือเครื่องไฟฟ้า ต่างก็จัดเป็นคอมพิวเตอร์ได้ทั้งสิ้น ลูกคิดที่เคยใช้กันในร้านค้า ไม้บรรทัด คำนวณ (slide rule) ซึ่งถือเป็นเครื่องมือประจำตัววิศวกรในยุคยี่สิบปีก่อน หรือเครื่องคิดเลข ล้วนเป็นคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด
     ในปัจจุบันความหมายของคอมพิวเตอร์จะระบุเฉพาะเจาะจง หมายถึงเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำงานคำนวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคำสั่งด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้คำจำกัดความของคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างกะทัดรัดว่า เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เสมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์
         ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เมาส์ การ์ตูน                          ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ลำโพง การ์ตูน

การจำแนกคอมพิวเตอร์ตามลักษณะวิธีการทำงานภายในเครื่องคอมพิวเตอร์อาจแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ ๆ คือ
     แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (analog computer) เป็นเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ได้ใช้ค่าตัวเลขเป็นหลักของการคำนวณ แต่จะใช้ค่าระดับแรงดันไฟฟ้าแทน ไม้บรรทัดคำนวณ อาจถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของแอนะล็อกคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ค่าตัวเลขตามแนวความยาวไม้บรรทัดเป็นหลักของการคำนวณ โดยไม้บรรทัดคำนวณจะมีขีดตัวเลขกำกับอยู่ เมื่อไม้บรรทัดหลายอันมรประกบรวมกัน การคำนวณผล เช่น การคูณ จะเป็นการเลื่อนไม้บรรทัดหนึ่งไปตรงตามตัวเลขของตัวตั้งและตัวคูณของขีดตัวเลขชุดหนึ่ง แล้วไปอ่านผลคูณของขีดตัวเลขอีกชุดหนึ่งแอนะล็อกคอมพิวเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์จะใช้หลักการทำนองเดียวกัน โดยแรงดันไฟฟ้าจะแทนขีดตัวเลขตามแนวยาวของไม้บรรทัด
     แอนะล็อกคอมพิวเตอร์จะมีลักษณะเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่แยกส่วนทำหน้าที่เป็นตัวกระทำและเป็นฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ จึงเหมาะสำหรับงานคำนวณทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมที่อยู่ในรูปของสมการคณิตศาสตร์ เช่น การจำลองการบิน การศึกษาการสั่งสะเทือนของตึกเนื่องจากแผ่นดินไหว ข้อมูลตัวแปรนำเข้าอาจเป็นอุณหภูมิความเร็วหรือความดันอากาศ ซึ่งจะต้องแปลงให้เป็นค่าแรงดันไฟฟ้า เพื่อนำเข้าแอนะล็อกคอมพิวเตอร์ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเป็นแรงดันไฟฟ้าแปรกับเวลาซึ่งต้องแปลงกลับไปเป็นค่าของตัวแปรที่กำลังศึกษา
     ในปัจจุบันไม่ค่อยพบเห็นแอนะล็อกคอมพิวเตอร์เท่าไรนักเพราะผลการคำนวณมีความละเอียดน้อย ทำให้มีขีดจำกัดใช้ได้กับงานเฉพาะบางอย่างเท่านั้น

                                         ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประวัติวิชาคอมพิวเตอร์

      ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (digital computer) คอมพิวเตอร์ที่พบเห็นทั่วไปในปัจจุบัน จัดเป็นดิจิทัลคอมพิวเตอร์แทบทั้งหมด ดิจิทัลคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานเกี่ยวกับตัวเลข มีหลักการคำนวณที่ไม่ใช่แบบไม้บรรทัดคำนวณ แต่เป็นแบบลูกคิด โดยแต่และหลักของลูกคิดคือ หลักหน่วย หลักร้อย และสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นระบบเลขฐานสินที่แทนตัวเลขจากศูนย์ถ้าเก้าไปสิบตัวตามระบบตัวเลขที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
     ค่าตัวเลขของการคำนวณในดิจิทัลคอมพิวเตอร์จะแสดงเป็นหลักเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นระบบเลขฐานสองที่มีสัญลักษณ์ตัวเลขเพียงสองตัว คือเลขศูนย์กับเลขหนึ่งเท่านั้น โดยสัญลักษณ์ตัวเลขทั้งสองตัวนี้ จะแทนลักษณะการทำงานภายในซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่ต่างกัน การคำนวณภายในดิจิทัลคอมพิวเตอร์จะเป็นการประมวลผลด้วยระบบเลขฐานสองทั้งหมด ดังนั้นเลขฐานสิบที่เราใช้และคุ้นเคยจะถูกแปลงไปเป็นระบบเลขฐานสองเพื่อการคำนวณภายในคอมพิวเตอร์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังเป็นเลขฐานสองอยู่ ซึ่งคอมพิวเตอร์จะแปลงเป็นเลขฐานสิบเพื่อแสดงผลให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่าย

สัตว์สงวน





                                   แรด
 แรด เป็นสัตว์อยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อันดับสัตว์กีบคี่ ในวงศ์ Rhinocerotidae แรดถือว่าเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ อาจเรียกได้ว่าเป็นสัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดรองจากช้างก็ว่าได้ เพราะแรดอาจมีขนาดยาวได้ถึง 3.6-5 เมตร ความสูงของไหล่ 1.6-2 เมตร น้ำหนัก 2.3-3.6 ตัน
แรดมีรูปร่างโดยทั่วไปคือ ตาเล็ก ปากงุ้มเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยม มีหนังที่หนามาก ในบางชนิดอาจเห็นเป็นชั้นคล้ายเกราะ และมีลักษณะเด่นที่สุด คือ เขาบริเวณสันจมูกที่งอกแหลมยื่นยาวอกมา เรียกกันว่า "นอ" ซึ่งใช้เป็นอาวุธในการพุ่งชนป้องกันตัว ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว นอของแรดนับว่าเป็นเขา (horn) อย่างหนึ่ง แต่เป็นเขาที่ไม่มีกระดูกเป็นแกนกลาง นอแรดทำมาจากเคราติน (keratin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของขน ผม และเล็บ โดยนอแรดไม่ได้เกิดจากขนที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่นตามที่เข้าใจผิดกัน นอแรดอาจยาวได้ถึง 1.5 เมตร แรดโดยทั่วไปจะมีนอ 2 นอ แต่บางชนิดจะมีเพียงนอเดียว
แรดเป็นสัตว์ที่ไม่มีต่อมเหงื่อ ดังนั้นจึงชอบนอนแช่โคลนหรือแช่ปลักเหมือนหมูหรือสัตว์ชนิดอื่น ๆ เพื่อดับความร้อนและไล่แมลงที่มารบกวน หากินในเวลากลางคืน กลางวันนอนพักผ่อนซึ่งอาจนอนหลับในท่ายืนก็ได้
แรดเป็นสัตว์ที่มีสายตาแย่มาก แต่มีประสาทรับกลิ่นและประสาทหูดีเยี่ยม จึงเป็นสัตว์ที่มีนิสัยฉุนเฉียวง่าย โกรธง่าย ประกอบกับขนาดลำตัวที่ใหญ่จึงมักไม่ค่อยมีศัตรูตามธรรมชาติ ในปัจจุบันมีแรดหลงเหลืออยู่เพียง 5 ชนิด เท่านั้น พบในทวีปแอฟริกา 2 ชนิด ในเอเชีย 3 ชนิด และทุกชนิดเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้วทั้งสิ้น ศัตรูของแรดเพียงอย่างเดียว คือ มนุษย์ ที่ล่าแรดเพื่อเอานอเนื่องจากเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยา โดยเฉพาะยาจีนเชื่อว่าเป็นยาเย็น สามารถดับพิษไข้ได้

SEHUN EXO



                               OH SEHUN
        ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เซฮุน


ชื่อ : โอ เซฮุน (Oh Se Hun)


ชื่อในวงการ : เซฮุน
ชื่อเล่น: Senshine 
พลังพิเศษ: ลม 
ตำแหน่ง : นักเต้นนำ, นักร้องสนับสนุน, แร็ปเปอร์
ระยะเวลาในการฝึก : 4 ปี
รูมเมท : ซูโฮ
ส่วนสูง : 182 cm
น้ำหนัก : 63 kg
สัญชาติ : เกาหลี
บ้านเกิด : กรุงโซล ประเทศเกาหลี
วันเกิด : 12 เมษายน 1994
ครอบครัว: พ่อ, แม่, พี่ชาย 
กรุ๊ปเลือด : O
ความสามารถพิเศษ : เต้น,การแสดง
งานอดิเรก: ฟังเพลง, การแสดง, เต้นรำและ 
อาหารที่ชื่นชอบ: เนื้อสัตว์และซูชิ 
สีที่ชอบ: สีขาวและสีดำ 
จำนวนที่ชื่นชอบ: 3, 5, 7 
การศึกษา : Seoul Arts High School
ผลงานก่อนเดบิวต์ :
- ได้ถูกแนะนำอย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกในวันที่ 10 มกราคม 2012
- ปรากฏตัวใน MV TwinKel ของ TTS ในปี 2012
- ถ่ายแบบกับนิตยสาร Vogue Girl
- ถ่ายแบบกับนิตยสาร High cut
- ถ่ายแบบกับนิตยสาร W Live
About Sehun : น้องเล็กของ EXO-K เขาได้รับการแคสติ้งตามท้องถนนตอนป.6 เซฮุนไปออดิชั่น 4 ครั้งในรอบ 2 ปี และก็กลายมาเป็นเด็กฝึกหัดของ SM ตอนม.2 เซฮุนเป็นขี้อายมากๆ ชอบเอามือปิดหน้าตัวเอง เริ่มที่จะชอบการเต้นหลังจากได้ยินครูสอนเต้นของเขาบอกว่า "นายมีพรสวรรค์นะ พยายามทำให้ดีล่ะ" และหลังจากเข้ารับการฝึกหัด เขาก็เริ่มสนใจในการแสดงด้วย 
ก่อนเดบิว
โอ้ Se-Hun (오세훈) หรือคนรู้ว่าเป็น Sehun (세훈) เป็นน้องเล็กในเกาหลีภาษาหรือสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของเกาหลีบอยแบนด์ EXO-K, EXO เกาหลีกลุ่มย่อย ในปี 2007 Sehun ถูกทาบทามโดยตัวแทนแมวมองในถนนเมื่อเขาอายุได้สิบสองปีและในปี 2008 เขาก็ประสบความสำเร็จในค่ายเอสเอ็มเอ็นเตอร์เทรนเมนต์หลังจากนั้นเมื่อเขาออดิชั่นผ่านได้ฝึกเป็นเวลาสองปีและได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อ 10 มกราคม 2012 เขาได้รับการแนะนำอย่างเป็นทางการเป็นสมาชิก EXO พร้อมกับการเต้นที่ทรงพลัง Sehun แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของเขาผ่านการทำงานสองคนกับไคเพื่อนสมาชิก ในคลิปทีเซอร์ Sehun เป็น Eoljjang อดีตหรือ Ulzzangis ระยะเกาหลีที่นิยมอย่างแท้จริงความหมายใบหน้าที่ดีที่สุดหรือดูดี
Sehun มีนิสัยชอบใช้เวลาอาบน้ำตอนที่มีเพื่อนสมาชิก, แพคฮยอนหลังการฝึกอบรมและเขามักจะโผล่ออกมาแลบลิ้นของเขา เขามีเสียงกระเพื่อมที่น่ารักว่าเขาไม่ได้ดีจริงๆ เขาได้เป็นรูมเมทกับ Suho เพราะมีตัวอักษร s เหมือนกัน Sehun มีบุคลิกภาพเขาเป็นคนขี้อาย แต่เมื่อคุณได้รับรู้ว่าเขามีชีวิตชีวามากขึ้นและเขาเป็นคนขี้เล่นและอยู่นิ่งๆนานๆไม่ได้หรือในคำอื่น ๆ ที่เขาไม่สามารถอยู่นิ่ง Sehun มีคำขวัญคือ 'Let' s อาศัยอยู่ในขณะที่ทำสิ่งที่เราชอบ! และเขาก็มีในอุดมคติของผู้หญิงคนหนึ่งชนิด เซฮุนบอกสเปคของเซฮุนคือผู้หญิงตัวเล็ก

มันส์ๆย่านดังๆ





    รวมสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน นั่งชิลล์ๆ เต้นมันส์ๆ ย่านกรุงเทพ

ผับ EDM




ร้าน Ztudio Live Hall
ผับ EDM

ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่เปิดเพลงเอาใจคอ EDM ขาแดนซ์สายตื๊ดเลยทีเดียว สำหรับ " Ztudio Live Hall RCA" ซึ่งเหมาะกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนแบบมันส์ ๆ ซึ่งทางร้านก็เอาใจลูกค้าเท้าไฟแบบเต็มอิ่มกับบรรดาศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศที่หมุนเวียนมามิกซ์เพลงให้เต้นกันกระจายทุกสัปดาห์ ตระการตาด้วยแสง สี เสียง สุดล้ำ รับรองว่ามาแล้วเต้นกันเมื่อยขาเลยล่ะ
    
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันบริการ เวลา 20.00-24.00 น.
ที่อยู่ : Royal City Avenue กรุงเทพฯ (ตรงข้ามกับ RCA หรือ ร้าน Ibiza เก่า) กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 09 3939 9893
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Ztudio Live Hall 




 ร้าน MASSIV (AFTERMOON)
MASSIV

  มาถึงร้านดังย่านลาดพร้าว ภายในร้าน MASSIV แบ่งเป็น VIP Zone และ Dance Floor กว้างๆ ที่ให้ชาว EDM ได้ขยับสเต็ปกันเต็มที่โดย DJ ฝีมืออันดับต้นๆของไทย ที่เปิดเพลงแนว Big Room และ Electro ผ่านระบบเสียงล้ำๆให้ขาแดนส์มันจนถึงที่สุดกันทุกคืน พร้อมทั้งตกแต่งด้วย Madlight รอบร้านแบบเต็มสตรีมร้านแรกในไทย และ Black Light แบบ 360 องศา พร้อมกับจอ​ LED ที่ซ่อนอยู่หลังกระจก เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันบริการ เวลา 20.00-02.00 น.
ที่อยู่ : 329 (ภายในร้าน Karaoke City) ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 084 700 6333 หรือ Line : @massiv
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก MassivClub



ร้าน Safe House
ผับ EDM

  Safe House แหล่งรวมขาแดนซ์แนว EDM ตัวจริง โดยภายในร้านออกแบบมาให้เป็น Dance Floor ขนาดใหญ่ ไม่มีเก้าอี้ แต่เพิ่มที่วางเครื่องดื่ม แล้วตกแต่งบริเวณเพดานด้วยหลอดไฟ LED ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง Tron จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง ส่วนโซนเวทีของดีเจก็ยกสเตจขึ้นไปอีกหนึ่งสเต็ป เพื่อจะได้มองเห็นดีเจได้ถนัด งานนี้ใครที่อยากออกลีลาแดนซ์ก่อนกลับบ้านก็แวะไปมันส์กันที่นี่ได้เลย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกเวลา 20.00-02.00 น.
ที่อยู่ : ทองหล่อ ซอย 10 (เอกมัย 5/1) ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Safe House

หาดนางรำ







                                                                   หาดนางรำ

 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หาดนางรำ

อยู่ภายในท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยว บรรยากาศ ชายทะเลที่สวยงาม มีชายหาดทรายละเอียด และน้ำทะเลใสสะอาดแห่งหนึ่งของทหารเรือ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้มาสัมผัส นอกจาก ทัศนียภาพที่สวยงามแล้ว หาดนางรำยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สโมสรบริการอาหาร เครื่องดื่ม โดย เฉพาะอาหารทะเลสด ๆ รสชาติเยี่ยม ราคาเป็นกันเอง อาคารพักรับรอง ทั้งห้องปรับอากาศ และธรรมดา และพื้นที่สำหรับผู้ที่ชอบ บรรยากาศกางเต็นท์เป็นหมู่คณะ และส่วนตัว หาดนางรำ นั้นมีความยาวตลอดชายฝั่งประมาณ 200 เมตร สุดปลายชายหาดคือ แหลมปู่เจ้าอันเป็นที่ประดิษฐาน ของ ศาลเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หาดนางรำ


เดิมชายหาดแห่งนี้ ไม่มีชื่อเรียกขานแต่อย่างใด แต่เหตุที่มีชื่อเรียกว่า "หาดนางรำ" นั้น ตามตำนานเรื่องเล่าที่ชาวบ้านได้บอกต่อๆ กันมานั้นกล่าวว่า หาดนางรำแท้จริงแล้วเป็นชื่อ ที่เรียกกันตามชื่อเกาะแห่งนี้เดิมที่ไม่มีชื่อเรียก เป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัย อยู่และ ไม่มีใครนิยมเดินทางไปเที่ยวชมมากนัก จะมีบ้างก็เพียงแค่ไปนั่งชมวิวทิวทัศน์รอบ ๆ เกาะ หรือไม่ก็ไปนั่งตกปลาเท่านั้น อยู่มา วันหนึ่งก็มีเสียงดนตรีมโหรีดังกึกก้องมาจากเกาะแห่งนี้ คล้ายเสียงดนตรีที่ใช้ประกอบในการร่ายรำ จากนั้นวันดีคืนดีก็มีเสียงดนตรี เช่นนี้ดังมาจากเกาะนี้อีก ชาวบ้านจึงเรียกเกาะแห่งนี้ว่า "เกาะนางรำ"และเรียก ชายหาดฝั่งตรงข้ามว่า "หาดนางรำ" เรื่อยมา จนตราบเท่าทุกวันนี้



วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559

ทัศนศึกษาของพวกหนูๆ

  




สวัสดีค่ะ วันนี้จะมานำเสนอเนื้อหาที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้ไปทัศนศึกษากันนะคะ
สถานที่ที่ 1 ที่พวกเราไดเ้ไปชมคือ

Bang Pa-In Royal Palace - Bang Pa-In.jpg

พระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากเกาะเมืองลงมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากเป็นที่ประสูติของพระองค์ ใช้เป็นสถานที่ที่ทรงใช้ประทับแรม ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ด้วยเป็นพระราชวังใกล้พระนครนั่นเอง


สถานที่ที่ 2 คือ

                                            วัดพนัญเชิงวรวิหาร by Pholtograph.jpg

วัดพนัญเชิง เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนาน ก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา และไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามหนังสือพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง และพระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิง และพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์กล่าวไว้ว่า ได้สถาปนาพระพุทธรูปพุทธเจ้าพแนงเชิง เมื่อปี พ.ศ. 1867 ซึ่งก่อนพระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี 

ส่วนสถานที่ที่ 3 นะค่ะ คือ 

                                            วัดใหญ่ชัยมงคล 4.jpg

วัดใหญ่ชัยมงคล เดิมชื่อ "วัดป่าแก้ว" หรือ "วัดเจ้าไท" ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะพระนคร ปัจจุบันเป็นพื้นที่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด นอกจากนี้แล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2544 อีกด้วย

และสถานที่สุดท้ายที่ได้ไปชมนะคะ คือ 

                                               Mongkhon Bophit at Day.jpg

วิหารพระมงคลบพิตร สันนิษฐานกันว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นราวแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โดยตามพงศาวดารวิหารพระมงคลบพิตรนั้น เดิมประดิษฐานอยู่ด้านทิศตะวันออกของ พระราชวังหลวง บางคนสันนิษฐานว่า เคยประดิษฐานอยู่กลางแจ้งที่วัดชีเชียงมาก่อน ในปี พ.ศ. ๒๑๔๖ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมโปรดฯ ให้ชลอมาไว้ทางด้านทิศตะวันตก แล้วให้สร้างมณฑปขึ้นครอบไว้ โดยมีหลักฐานจากภาพวาดของชาวตะวันตกที่เข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองว่าเป็นรูปร่างคล้ายๆมณฑป